Summary
อ่านนิยาย ได้ที่ Novelza เรื่อง เพราะข้าคือหมอ(ปีศาจ)
โดย นำเรื่อง เพราะข้าคือหมอ(ปีศาจ) มาเป็นบางส่วน
บทนำ
เพราะถูกสามีหักหลัง จึงทำให้กินรีทุ่มเทให้กับงานเขียนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะไปรักษาหัวใจระยะยาว ทว่าสวรรค์กลับเล่นตลกกับเธอ… เธอหัวใจวายตาย! โชคดีนักที่สวรรค์มิได้ใจร้ายกับนางมากนักจึงส่งให้มาอยู่ในร่างจ้าวเหม่ยเซียนที่เป็นถึงองค์หญิงคนสำคัญของแคว้นจ้าวและเป็นลูกศิษย์คนโปรดของหมอปีศาจ นางจึงใช้ชีวิตกับโอกาสครั้งที่สองอย่างคุ้มค่า อีกทั้งเฒ่าจันทรายังเมตตานางอยู่ถึงกับส่งหนุ่มหล่อมาทำให้หัวใจนางเต้นแรงอีกครั้ง …แต่จะเป็นใครและลงเอยอย่างไร
เรื่องย่อ
เสียงเคาะแป้นคีบอร์ดดังระรัว ด้วยนิ้วเรียวสวยซึ่งใครเห็นต่างอิจฉา ทว่าเวลานี้กินรีต้องใช้งานนิ้วอย่างหนักเพราะเดทไลน์ที่เหลือเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น
ใบหน้าเรียวคมสวมแว่นตาหนาเตอะแต่ดูซีดเซียวขอบตาเป็นหมีแพนด้าเนื่องจากอดหลับอดนอนมาหลายวัน เธอเคาะแป้นพิมพ์เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อได้พิมพ์คำว่า “จบบริบูรณ์” ซึ่งมันทำให้เธอดีใจมากเพราะสิ่งที่รักใกล้จะออกมาเป็นหนังสือ หลังจากทุ่มเทแรงกายแรงใจมานานนับเดือน เธอยกมือปาดเหงื่ออย่างเหนื่อยๆ
กินรีเป็นนักเขียนแนววาย ซึ่งก็คือชายรักชายที่กำลังโด่งดังในเวลานี้ภายใต้นามปากกาว่า “พู่กันเทพ” นิยายของเธอเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสาววายและหนุ่มวายอีกทั้งหญิงแท้ชายเทียม มากหน้าหลายตา
และเพราะเธอสร้างสรรค์นิยายแนวนี้ถึงได้มีคนเข้าใจผิดว่าเธอเป็นกระเทย! กอปรกับรูปร่างสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนต์และยังมีใบหน้าสวยคมมองผิวเผินเหมือนผู้ชายแปลงเพศมา แต่เธอไม่สนใจเพราะยังไงก็มีสามีแล้ว เธออายุสามสิบปีมีสามีเป็นตัวเป็นตนและแต่งงานกันมาได้หนึ่งปี
‘กันต์ธร’คือชื่อสามีของกินรีเขาหน้าตาหล่อเหลาผิวขาวและสูงร้อยแปดสิบเซนต์ซึ่งเป็นความฝันของสาวๆ กันต์ธรชอบยิ้มอ่อนโยนอยู่เป็นนิจอีกทั้งกิริยาเรียบง่ายของเขาทำให้เราเข้ากันได้ดี ที่สำคัญพ่อกับแม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง คนนี้คือคนที่พ่อกับแม่หามาให้เธอนั่นเอง
จะคิดว่าเธอไม่มีปัญญาหาสามีเองเหรอ? จะว่าอย่างนั้นก็ได้ นักเขียนที่ชอบเก็บตัวอยู่แต่ภายในห้องส่วนตัวของตัวเอง ทำตัวไม่ต่างจากพวกฮิกกี้จะเอาเวลาที่ไหนไปหาสามี
ที่สำคัญกินรีเป็นสาววาย ได้แต่จับคนนั้นมาจิ้นกับคนนี้จึงไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที จวบจนจะสามสิบนึกว่าจะได้ขึ้นคานเสียแล้ว นับว่าเฒ่าจันทราไม่ได้แล้งน้ำใจกับเธอมากเกินไป อย่างน้อยก็ส่งผู้ชายแสนเฟอร์เฟกมาให้
ทุกอย่างกันต์ธรดีหมดไร้ที่ติ แต่เสียอย่างเดียว! งานเขาเยอะมากไม่ค่อยได้กลับบ้านเห็นหน้าเธอก็เดือนละครั้งและแต่ละครั้งก็หลับเป็นตาย กิจกรรมอย่างว่าอย่าคิดว่าเธอจะบรรลุ เพราะตั้งแต่แต่งงานมาเธอเสียบริสุทธิ์แค่ครั้งเดียวเท่านั้น! ให้ตายสิ เธอช่างไร้เสน่ห์สิ้นดี
แต่!!! ที่พล่ามมามันไม่เกี่ยวกับที่เธอไร้เสน่ห์ยั่วยวนสามีหรอก จุดสำคัญคือย้อนไปเมื่อสามวันก่อน กินรีนั่งทำงานตามปกติแต่ในวันนั้น สามีเธอพาผู้ชายคนหนึ่งเข้าบ้าน ใบหน้าหล่อขั้นเทพอีกทั้งร่างสูงเท่สมาร์ทใบหน้าเงียบขรึมมองเธออย่างเฉยเมยไม่มีคำทักทาย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม
“กินรีนี่แฟนฉัน” คำแนะนำแรกของสามีเหมือนฟ้าผ่ากลางหัว กินรีมองดูทั้งคู่อย่างโง่งมและเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ
“แฟน? หมายความว่าไง”
กันต์ธรมองหน้ากินรีนิดหนึ่งเขาไม่ได้มีรอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนที่ผ่านมา เขามองเธอเหมือนคนแปลกหน้าที่ไม่ได้อยู่ร่วมกันมาหนึ่งปี เขาเดินไปยังชั้นหนังสือภายในห้องนั่งเล่นแล้วหยิบนวนิยายที่เธอเป็นคนเขียนเองยื่นมาให้ดู
“ฉันเป็นแบบที่เธอเขียน เขาเป็นสามีฉัน”
ณ เวลานั้นกินรีอึ้งจนพูดไม่ออก หัวใจเหมือนจะหยุดเต้น เธอมองใบหน้าหล่อเหลาของสามี ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามีของสามีเธอ งงกันไหม เธอไม่งงนะแต่กำลังอึ้ง เธอไม่รู้ว่าเวลานี้เป็นความผิดของใคร เป็นเธอที่เขียนนิยายวายมากเกินไป
หรือว่าเป็นที่เขาซึ่งเป็นเกย์อยู่นานแล้วแต่เพิ่งค้นพบตัวเอง แต่ไม่ว่าใครผิดเธอก็พูดไม่ออก สมองมึนเบลอไปหมด ไม่มีคำว่าขอโทษหรือขออภัย
เธอเป็นสาววายที่ชอบอ่านนิยายวายซึ่งเป็นเรื่องชายรักชาย แต่เวลานี้หัวใจเธอแทบหยุดเต้น เพราะบอกได้เลยว่าเธอก็รักกันต์ธรไปแล้วเหมือนกัน ไม่ถึงกับคลั่งไคล้แต่ก็มีความผูกพัน แม้เขาจะไม่ได้เป็นผู้นำที่ดีแต่เขาก็ยังเป็นสามีที่ดีเสมอมา
“ไม่เป็นไร เราอยู่ด้วยกันสามคนแล้วกัน”
นั่นเป็นคำตอบแรกที่กินรีคิดได้ตอนนี้ ทว่ากันต์ธรมองเธอตาขวางอย่างไม่พอใจ เอาตัวมาบังคนที่ยืนนิ่งเป็นธาตุอากาศมานานอย่างไม่ต้องการให้เธอได้สำรวจคนตรงหน้า บ่งบอกว่าคนนี้สำคัญและหวงมาก
เจ้าสาวในอาภรณ์สีแดงสด เวลานี้กลับงดงามตราตรึงเซียวหยวนซานจนแทบทำให้เขาหยุดลมหายใจ ใบหน้างามล้ำที่อยู่ใต้ผ้าคลุมบางๆ แม้จะเห็นอยู่บ่อยครั้งทว่ากลับทำให้เขาหลงใหลมากขึ้นทุกวัน
ยิ่งนานวันความรู้สึกพี่มีให้จ้าวเหม่ยเซียนกลับล้ำลึกจนไม่สามารถกล่าวออกมาได้หมด รู้เพียงแค่แม้จิตวิญญาณเขาก็มอบให้นางได้
วันนี้ในที่สุดก็ถึงคืนเข้าหอที่เขาเฝ้ารอมานาน เซียวหยวนซานใช้ไม้คันชั่งเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกอย่างแผ่วเบา ดวงตาคู่สวยมองสบตาเขาอย่างเก้อเขิน นางมีท่าทางประหม่าจนเห็นได้ชัด เขายกยิ้มอ่อนโยนให้เจ้าสาวหมาดๆ
“เซียนเอ๋อร์เจ้ากลัวหรือไม่”
จ้าวเหม่ยเซียนเงยหน้ามองสบตากับเจ้าบ่าวในอาภรณ์สีแดงอย่างเขินอาย แม้นางจะเคยแต่งงานมาแล้วแต่พิธีโบราณเช่นนี้มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน อีกทั้งการแต่งงานในครั้งนี้ของพวกเธอเกิดจากความรัก นั่นทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย
“ข้ากลัวนิดหน่อย”
จ้าวเหม่ยเซียนตอบกลับอย่างแผ่วเบา นางไม่ค่อยมีประสบการณ์มากนักเพราะที่ผ่านมามันก็เหมือนความฝัน นางไม่ได้รู้สึกสุขสมดังเพื่อนฝูงกล่าวไว้
นางรู้แค่ความเจ็บปวดเท่านั้นตอนนั้นกันต์ธรไม่ได้อ่อนโยนกับนางและทำเหมือนนางเหมือนหุ่นที่ไร้ชีวิตจิตใจเท่านั้น เวลานั้นนางคิดว่าต่างคนต่างไม่มีประสบการณ์ แต่มาวันนี้ทำให้นางกระจ่างชัดว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ชอบผู้หญิงเท่านั้น
“ข้าสัญญาจะอ่อนโยนกับเจ้า”
เซียวหยวนซานเอ่ยบอกอย่างอ่อนโยน ก่อนจะก้มลงจุมพิตริมฝีปากบางอย่างถวิลหา ความหวานล้ำที่แทรกซึมทำให้ลิ้มร้อนของทั้งคู่ตวัดเกี่ยวกันอย่างรักใคร่
ความอ่อนหวานแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างบอบบางของจ้าวเหม่ยเซียนอย่างรักใคร ทะนุถนอม เพียงไม่นานอาภรณ์สีแดงงดงามก็ถูกปลดออกจนหมดสิ้น สองร่างแนบชิดกันอย่างไม่หลงเหลือช่องว่างๆ ใด
จ้าวเหม่ยเซียนหน้าแดงก่ำเมื่อถูกสายตาคู่คมที่เต็มไปด้วยไฟราคะจ้องมองอย่างเร่าร้อน นางสั่นเล็กน้อยแต่ความวาบหวามที่ถูกมอบให้กลับทำนางรู้สึกชื่นชอบอย่างไม่รู้ตัว นางให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
เซียวหยวนจุมพิตเนินอกอวบอิ่มขาวเนียนตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนโลมเลียเม็ดปทุมงามอย่างปลุกเร้าคนงามที่หน้าแดงก่ำ แอ่นอกตอบรับเขาอย่างน่ารักจนแทบอดกลั้นความอดทนไม่ได้ ทว่านี่เป็นครั้งแรกของพวกเขาจึงอยากให้นางประทับใจและมีความสุขที่สุด
สองมือฟ้อนเฟ้นบำเรอ ขณะที่ลิ้นร้อนเคลื่อนลงมายังหน้าท้องขาวเนียน ก่อนจะลงต่ำมาเรื่อยๆ จนถึงเนินสวรรค์ที่งดงามจนไม่อาจถอนสายตาไปได้ สองมือยกขาเรียวสวยชันขึ้นพร้อมก้มลงละเลียดเม็ดสวรรค์อย่างสนใจใคร่รู้
“อ๊ะ… อา… หยวนซาน”
เสียงหวานเรียกชื่อสามีนางอย่างหวานล้ำ ดวงตาคลอไปด้วยไฟปรารถนา ความเสี่ยวซ่านที่ได้รับทำให้นางอยากเรียกร้องมากกว่านี้ ลิ้นร้อนกวาดชิมน้ำหวานในโพรงอย่างตะกละตะกลาม จนนางตัวสั่นด้วยความสุขสม
“อะ อะ อา…”
ยิ่งเสียงหวานร้องครางดังมากเท่าไหร่ เซียวหยวนซานยิ่งบำเรอนางมากยิ่งขึ้น ลิ้นร้อนเร่งความเร็วพร้อมดูดกลืนเม็ดสวรรค์อย่างหลงใหล ความหอมหวานของกายสาวยิ่งทำให้เขาหมกมุ่นมากยิ่งขึ้น
“อ๊า ที่รักข้าเสียว…”
จ้าวเหม่ยเซียนเอ่ยบอกเสียงแหบพร่า นัยน์ตางามหยาดเยิ้มไปด้วยไฟราคะที่ถูกปลุกขึ้น นางแอ่นสะโพกตอบรับลิ้นร้อนด้วยความซาบซ่าน
“อ๊ะ อะ อา…”
เสียงหวานร้องครางพร้อมร่างสั่นกระตุกเมื่อนางแตะไปถึงขอบสวรรค์ เซียวหยวนซานเลียริมฝีปากตัวเองอย่างกระหาย ร่างบอบบางของภรรยาคนงามยามนี้พร้อมรับมังกรของเขาแล้ว…
“ให้ข้าได้รักเจ้ามากกว่านี้นะเซียนเอ๋อร์”
เสียงแหบพร่าของบุรุษที่ขึ้นชื่อว่าสามีทำให้จ้าวเซียนเอ๋อร์พยักหน้ารับ มองความใหญ่โตของสามีอย่างหวาดหวั่น ขณะเดียวกันก็ปรารถนาให้อีกฝ่ายมาเติมเต็มความรู้สึกให้นาง
แม้แต่เธอที่เป็นภรรยาก็ยังไม่ละเว้น เธอมองตามอย่างเบลอๆ คนอื่นอาจจะกรีดร้องแต่เธอกลับใจเย็นกว่าที่เห็น แม้แต่ตัวเธอยังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะนิ่งได้ขนาดนี้ เธอเอียงคอมองกันต์ธรแล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ
“หึง?”
“ใช่ ถึงเธอจะเป็นเมียเรา แต่ขอร้องเธอถอยออกไปจากชีวิตเราได้ไหม แต่ไม่ต้องออกจากบ้านนี้เพียงแค่เธอไม่ออกจากพื้นที่ส่วนตัวมากเท่านั้นพอ”
คำตอบที่แสนเย็นชาและเห็นแก่ตัวไม่ได้ทำให้กินรีรู้สึกเสียใจ อาจเพราะตอนนี้หัวใจมันชาจนไร้ความรู้สึก แค่คำพูดนั้นเธอก็เข้าใจอะไรได้ ว่ากันต์ธรไม่อยากให้ทางบ้านรับรู้ว่าเรากำลังเลิกกัน
ตอนนี้เธอเป็นภรรยาแค่ในทะเบียนสมรส บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอซึ่งทางบ้านของกันต์ธรเป็นคนซื้อให้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ให้อีกฝ่ายปวดใจ กินรีพยักหน้าตอบรับอย่างง่ายดาย ดวงตาสวยมองทั้งคู่สองเท้าขยับไปใกล้พวกเขามากขึ้นและจับมือทั้งคู่จับกันไว้
“รักกันนานๆ นะ อย่างไรฉันก็ยังเป็นเพื่อนนาย”
นั่นคือสิ่งที่เธอคิดได้ การจากกันด้วยดีมันยังมีความรู้สึกมิตรภาพที่ดีหลงเหลือ แต่หากจากกันด้วยความแค้นแม้แต่ตัวเธอเองก็จะไม่มีความสุขไปด้วย
“เราคิดแล้วว่าเธอต้องเข้าใจ และขอโทษสำหรับที่ผ่านมา แต่คนนี้เราหวงจริงๆ”
กินรีมองดูทั้งคู่นิ่งๆ ก่อนจะพยักหน้ารับและผละออกมาอยู่ภายในห้องนอนส่วนตัวของตัวเอง เวลานั้นหัวใจรู้สึกว่างเปล่าไม่มีน้ำตา เธอเหม่อมองออกไปนอกระเบียงห้องและเฝ้าครุ่นคิดเสมอว่าที่ผ่านเป็นความผิดของใคร ของเธอหรือของกันต์ธร…
หลังจากที่สามีพาผู้ชายคนใหม่มาอยู่ในบ้าน กินรีก็หมกตัวอยู่ภายในห้อง ออกไปแค่หาอะไรกินและกลับมาทำงานต่อ จนในที่สุดงานก็เสร็จเรียบร้อยเหมือนในเวลานี้ ทว่าภายในห้องตอนนี้มีแต่อาหารสำเร็จรูป ไวไว และขนมเต็มห้อง
ถามว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร บอกได้เลยว่าเธอเสียใจและรู้สึกเจ็บใจมากกว่า ว่าทำไมกันต์ธรต้องไปเป็นเมียเขาเสียเอง เป็นสามีหมอนั่นไม่ได้หรือไง ทำไมต้องเป็นฝ่ายรับด้วย แต่ดูจากสภาพแล้วก็ได้แต่พูดไม่ออก หลับตาดูยังรู้เลยว่าใครจะรับใครจะรุก
กินรีนวดขมับที่ปวดอยู่เบาๆ ก่อนจะคลิกส่งงานให้บก. เธอยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอผ่อนลมหายใจเมื่องานที่รับมาส่งจนเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะขอหยุดพักหัวใจและพักงานเพื่อทบทวนกับตัวเองว่า เธอผิดใช่ไหม? เรื่องราวถึงลงเอ่ยอย่างนี้
อึก!
กินรีกุมหน้าอกตัวเองด้วยความเจ็บ มันเจ็บและแน่นหน้าอกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เกิดอะไรขึ้น? เธอกลิ้งตกจากเก้าอี้ด้วยความเจ็บ หัวใจมันบีบรัดจนหายใจไม่ออก เธอไม่ได้เป็นโรคหัวใจทำไมถึงเจ็บ เธอไม่ได้กินยาอะไรลงไปทำไม…
กินรีรู้สึกดวงตาพร่าเลือนหอบหายใจแรงขึ้น เสียงโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดดังขึ้น และคงจะเป็นบก. โทรมา เพราะขอหยุดพักงานยาวอย่างไม่มีกำหนดและไม่มีเหตุผลให้ฟัง
ทว่ามือเธอสั่นมากจนไม่สามารถขยับตัวไปรับได้ ร่างกายรู้สึกชาไปหมด หายใจไม่ออก ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามา เธอยังไม่อยากตายถึงจะอกหักแต่ยังเห็นความสำคัญของชีวิต แต่ตอนนี้เธอหายใจไม่ออกจริงๆ ทรมานเหลือเกิน…
กินรีลืมตัวตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้า ความเหน็บหนาวทิ่มแทงเข้าไปในร่างจนต้องฝืนลืมตาตื่น เธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อร่างกายปวดร้าวระบมไปหมด เธอปรับสายตาให้เข้ากับแดดที่แยงตาก่อนจะสำรวจรอบกายตัวเอง
คิ้วขมวดมุ่นจำได้ว่าตัวเองอยู่ในห้องที่เป็นเรือนหอ เธอตั้งใจว่าจบงานนี้แล้วจะย้ายออกไปแต่สิ่งที่เห็นตอนนี้คือกระท่อม! เธอลุกขึ้นนั่งมองรอบกายอย่างไม่แน่ใจหลับตาและลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็ยังเหมือนเดิม ตอนนี้เธอนั่งอยู่บนแคร่ไม้ภายในกระท่อมหลังนี้
พลันใดนั้นกินรีก็รู้สึกปวดศีรษะจนแทบจะแตกพร้อมความทรงจำมากมายของใครบางคนหลั่งไหลเข้ามาในหัวราวกับเขื่อนน้ำแตก เธอกัดฟันนอนกับแคร่ทนรับความเจ็บ
และมี นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novelza.com