แนวเรื่อง: ระบบจากเกม, เนโครแมนเซอร์, พระเอกเข้าไปในโลกเกม, ยุคกลาง, พระเอกสายดาร์ค, ผจญภัย, แฟนตาซี
เรื่องย่อ
[กำลังปรับเปลี่ยนรูปร่าง…..]
[ปรับเปลี่ยนเสร็จสิ้น…..]
ซากศพจำนวนมากถูกวางสุมซ้อนอยู่ในสุสานอันมืดมิด
ตามร่างของซากศพเหล่านี้ล้วนมีร่องรอยบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น มีบางศพที่ถูกตัดแขนหรือขาออกก่อนจะถูกเย็บกลับเข้าไปใหม่ บนพื้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำหนองอันน่าขยะแขยงที่ไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร ในอากาศยังมีกลิ่นเหม็นเน่าลอยตลบอบอวล
หากมีนักเวทผู้ศึกษาในศาสตร์เนโครแมนเซอร์ผ่านมาเห็นเข้า พวกเขาก็คงจะพบว่าซากศพเหล่านี้กำลังอยู่ในกระบวนกลายสภาพ
ท่ามกลางกองซากศพอันเน่าเฟะ ร่างอันไร้ซึ่งบาดแผลร่างหนึ่งกลับโดดเด่นสะดุดตา หากว่าเดินเข้าไปดูใกล้ๆก็พบจะว่าหน้าอกของร่างนั้นกำลังขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ
จู่ๆร่างนั้นก็ขยับเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ร่างนั้นยกมือทั้งสองขึ้นกุมศีรษะด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เมื่อสติค่อยๆกระจ่าง ความทรงจำจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้ามาในหัว
ครอบครัว เพื่อนสนิท ชีวิตอันสงบสุข และ….โครงกระดูก ศพเดินได้ เสียงกรีดร้องของผู้คน นักเวทในชุดคลุมสีดำ….
“ชื่อของข้าคือร็อด บุตรชายคนโตของนายพรานแห่งหมู่บ้านซาอู ข้ามีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง นางใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านอย่างสงบสุข แต่หมู่บ้านก็ถูกเนโครแมนเซอร์ผู้หนึ่งบุกโจมตี หมู่บ้านเหลือเพียงซาก ชาวบ้านถูกฆ่าทั้งหมด ก่อนที่ข้าจะถูกฆ่า ห้วงสติสุดท้ายของข้ามองเห็นเนโครแมนเซอร์ผู้ชั่วร้ายนั่นจับตัวน้องสาวของข้าไว้ แล้วก็พูดอะไรแปลกๆว่า ‘เจ้าเป็นผู้กล้าโดยกำเนิด….ดังนั้นเจ้าจะรอด….’ “
“ไม่…ไม่ใช่….ฉันชื่อร็อด เป็นโปรเพลย์เยอร์ในศตวรรษที่ยี่สิบสอง และฉันก็กำลังเข้าเกมเสมือนจริงที่กำลังดังที่สุด [Heroes of Invincibility 3]”
“ฉัน…นี่ฉันยังอยู่ในเกมอยู่รึเปล่า? แล้วก็ความทรงจำนั่น…มันอะไรกัน?”
เพื่อยืนยันข้อสันนิษฐาน ร็อดยื่นมือไปแตะพื้นดินที่เขากำลังนั่งอยู่ จากนั้นก็รีบชักมือกลับมา เขามองดูฝ่ามืออย่างพูดไม่ออก บนฝ่ามือของเขามีน้ำหนองติดอยู่….
ร็อดลุกขึ้นยืนก่อนจะมองดูพื้นที่โดยรอบ
สุสานที่มีแสงสลัวๆ ซากศพที่กระจัดจายอยู่เกลื่อนกลาด มีเสียงคำรามเบาๆดังออกมาจากทางส่วนลึกของสุสาน…..ฉากที่ยากจะพบเจอได้ในโลกแห่งความเป็นจริงทำให้ร็อดได้ข้อสรุปในใจ
“ชัดแล้ว….ฉันกำลังอยู่ในเกม ถ้างั้น…หน้าต่างคุณสมบัติ”
เพียงใช้ความคิด หน้าต่างโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของร็อด
ความสามารถพิเศษ: ยังไม่ได้ปลุกพลัง
ระดับชั้น: ขั้นที่ 1 ทหารอาสา, เลเวล 1 (0/10)
ค่าความสามารถ: ความแข็งแรง 7, ความเร็ว 6, ร่างกาย 8, สติปัญญา 2, จิตวิญญาณ 2
มองดูหน้าต่างคุณสมบัติแล้ว ร็อดก็จมอยู่ในความคิด
ค่าความสามารถทั้งสามค่าอย่าง ความแข็งแรง ความเร็ว และร่างกายของผู้ใหญ่คนหนึ่งควรจะอยู่ที่ 10 อ้างอิงจากความทรงจำในหัวแล้ว ร่างกายนี้ควรจะอยู่ในช่วงวัยรุ่น และค่าความสามารถก็ยังไม่ถึงระดับค่าเฉลี่ย แต่ถึงอย่างนั้นค่าสติปัญญาและค่าจิตวิญญาณที่มีอยู่สองหน่วยก็บ่งบอกว่าเจ้าของร่างคนก่อนไม่มีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ โดยทั่วไปแล้ว ค่าความสามารถตอนเริ่มต้นออกจะต่ำไปสักหน่อย แต่เจ้าของร่างคนเก่ายังมีอายุไม่มาก ทั้งยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ยอดเยี่ยม
“ในความทรงจำของร่างนี้ หมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกเนโครแมนเซอร์ผู้แข็งแกร่งทำลายจนราบคาบ แต่จากภาพที่เห็นในความทรงจำ ที่เรียกว่ากองทัพอันเดดอะไรนั่นมันก็แค่พวกอันเดดระดับต่ำอย่างซอมบี้และทหารโครงกระดูก…และเวทมนตร์ที่เนโครแมนเซอร์คนนั้นใช้ก็แค่เวทระดับต่ำอย่างเมจิกแอโรว์และสโลว์”
“เนโครแมนเซอร์คนนั้นอาศัยช่วงเวลาตอนกลางดึกบุกโจมตี ประกอบกับความกลัวของชาวบ้านที่ไม่รู้จักพวกอันเดดดีจึงสามารถบุกเข้ามาในหมู่บ้านได้สำเร็จ ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนกลางวัน ผลลัพธ์ก็คงจะไม่เป็นแบบนี้”
“เนโครแมนเซอร์คนนั้น….ที่จริงแล้วก็แค่เนโครแมนเซอร์ฝึกหัด”
หลังจากล่วงรู้ตัวตนของผู้ที่บุกโจมตีหมู่บ้านแล้ว ความคิดของร็อดก็ยิ่งมายิ่งกระจ่าง
“เป้าหมายของเนโครแมนเซอร์คนนั้นในการโจมตีหมู่บ้านก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง หรือก็คือ เพื่อรวบรวมทรพยากร ไม่ว่าจะเงินหรือศพชาวบ้านที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นอันเดดก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เนโครแมนเซอร์คนนั้นต้องการ”
“ทุกคนในหมู่บ้านถูกฆ่าทั้งหมด….เดี๋ยวนะ จากความทรงจำแล้ว น้องสาวของเขาคนที่รอดชีวิตนั่น…ผู้กล้าโดยกำเนิด…..ผู้กล้างั้นเหรอ?”
ร็อดหรี่ตาลงอย่างใช้ความคิด
กุญแจสำคัญในการผู้กล้า แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถปลุกพลังและกลายเป็นผู้กล้าเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์อันสิ้นหวัง
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถกลายเป็นผู้กล้าได้ บางคนอาจจะสิ้นหวังยิ่งกว่าเก่า และสุดท้ายก็ทำได้แค่รอความตาย คนที่สามารถกลายเป็นผู้กล้าได้มักจะมีคุณสมบัติที่คนทั่วไปไม่มี ไม่ว่าจะความกล้าหาญ ไร้ซึ่งความกลัว หรือจิตใจอันแน่วแน่ก็ตาม
เทียบกับสิ่งมีชีวิตในระดับเดียวกันแล้ว ผู้กล้ามักจะได้รับค่าความสามารถและศักยภาพในการเติบโตที่สูงกว่าคนธรรมดาทั่วไป ทั้งยังได้รับสกิลพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“ผู้กล้าโดยกำเนิดงั้นเหรอ?…น่าเสียดายที่มาเกิดในหมู่บ้านอันห่างไกลแบบนี้ ถ้าเกิดในอาณาจักรเอลาเซียล่ะก็ คงจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง….”
ทันใดนั้นวิญญาณของร็อดก็สั่นไหวเบาๆ และหน้าต่างสีแดงเลือดก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา
[ภารกิจแห่งวิญญาณ: ความสัมพันธ์ทางสายเลือด]
[คำอธิบายภารกิจ]: เมื่อหมู่บ้านที่คุณอยู่อาศัยถูกทำลาย และในฐานะที่คุณเป็นผู้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเพียงคนเดียวกับน้องสาวของคุณที่ตอนนี้ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน กระนั้นกระทั่งความตายก็ยังไม่อาจสะบั้นความห่วงใยต่อน้องสาวอันเป็นที่รัก คุณสาบานว่าจะช่วยน้องสาวของคุณกลับมาให้จงได้
[เป้าหมายของภารกิจ]: ช่วยเหลือน้องสาวของคุณ โรว์ลิ่ง กลับมาอย่างปลอดภัยภายในเวลาหนึ่งปี
[เงื่อนไขที่ทำให้ภารกิจล้มเหลว]: เกินระยะเวลาที่กำหนดหรือเป้าหมายเสียชีวิต
บทลงโทษ: วิญญาณถูกสะบั้น สูญเสียสำนึกสติ
“….โอเค สรุปก็คือ ฉันเพิ่งข้ามมาที่ต่างโลก และการรับสืบทอดร่างนี้ก็มีราคาที่ต้องจ่ายสินะ……เอาเถอะ เดาจากกฏเรื่องระดับความยากของระบบและรางวัลอันเท่าเทียมแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้บอกถึงรางวัลภารกิจ แต่มันก็คงจะเป็นค่าความจงรักภักดีและสกิลของโรว์ลิ่งล่ะมั้ง แล้วภัยแฝงของร่างนี้ก็จะได้หายไปด้วย”
“ในเมื่อเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดนั่นพบว่าโรว์ลิ่งเป็นผู้กล้าโดยกำเนิด ขอเพียงเขาไม่โง่จนเกินไปนัก เขาก็คงจะไม่เปลี่ยนโรว์ลิ่งให้กลายเป็นอันเดด ถึงทำไปเขาก็จะได้แค่ซากศพแม่มดมาตนหนึ่งเท่านั้น”
“สิ่งที่เขาจะทำก็คงจะเป็นการขายเธอให้กับลอร์ดชั้นสูงเพื่อทรัพย์สมบัติ หรือส่งโรว์ลิ่งไปยังโรงประมูลเพื่อแลกกับของล้ำค่า”
ร็อดครุ่นคิด ในช่วงเวลาสั้นๆหนึ่งปีนี้ก็สามารถรับรองได้ว่าจะยังไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับโรว์ลิ่ง และสิ่งที่เขาต้องวพิจารณาเป็นอันดับแรกก็คือสถานการณ์ของเขาในตอนนี้
หลังจากชาวบ้านถูกสังหารจนหมดหมู่บ้าน เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดผู้นั้นก็คงจะมีเรื่องต่างๆให้จัดการอย่างการค้นหมู่บ้านเพื่อหาศพเพิ่มแล้วเปลี่ยนซากศพเหล่านั้นให้กลายเป็นอันเดด
วิธีจัดการซากศพเพื่อสร้างอันเดดที่มีระดับสูงขึ้นนั้นคือเป้าหมายสูงสุดของเนโครแมนเซอร์ทุกคน วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการเย็บบาดแผลให้กับซากศพเพื่อรักษาจำนวนของพวกซอมบี้ และวิธีที่สองก็คือการใช้วัตถุดิบต่างๆในการเสริมแกร่งให้กับศพ แต่ไม่ว่าระดับของศพนั้นจะสูงสักเท่าไร ศพของชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งก็ไม่สามารถถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเดธไนท์ได้ สำหรับพวกอันเดดที่แข็งแกร่งนั้น ก่อนที่จะตายแล้วฟื้นขึ้นมาในฐานะอันเดด พวกเขาจะต้องมีความแข็งแกร่งอยู่ก่อนแล้ว
จากการสังเกตอีกข้อของร็อด ในขั้นตอนจัดการกับศพนั้น เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนนั้นทำได้ไม่เลวเลย ดูจากสภาพของศพที่อยู่รอบตัวเขาก็ทราบได้
เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดผู้หนึ่งจะเปลี่ยนซากศพให้กลายเป็นอันเดด พวกเขาจึงทำได้เพียงนำศพที่ผ่านกระบวนตัดแต่งแล้วไปไว้ในสถานที่ที่มีพลังแห่งความตายอยู่อย่างเข้มข้นและปล่อยให้ศพเหล่านั้นกลายเป็นอันเดดเองตามธรรมชาติ จากนั้นจึงค่อยเข้ามาควบคุมพวกมัน การกลายสภาพตามธรรมชาตินี้กินระยะเวลาตั้งแต่ไม่กี่วันจนกระทั่งหลายสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับพลังความตายของสถานที่แห่งนั้น
“ซากศพพวกนี้มีร่องรอยการกลายสภาพชัดเจน แค่รอให้เนโครแมนเซอร์คนนั้นย้อนกลับมาปลุกไฟวิญญาณ พวกมันก็จะกลายเป็นซอมบี้ หรือก็คือ ไม่ว่าจะหนีออกไปจากสุสาน หรือทำการสำรวจสุสานก็มีเวลาเหลือไม่มากแล้ว” หลังจากมองดูซากศพที่อยู่โดยรอบ ร็อดก็สรุปออกมา