Summary
ทุ่งดอกไม้ที่งดงามกระจัดกระจายและเบ่งบานออกไปทั่วทั้งโลกใบนี้ สร้างความงดงามและความเงียบสงบให้กับเรา แสงอาทิตย์ สายลม น้ำ พื้นดิน ทุกสิ่งประสานการราวกับขับร้องเพลงอันไพเราะจับใจ หนึ่งในความสงบที่มนุษย์หลายคนปรารถนา เพราะนั่น คือจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งนี้ สงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น สงครามที่ไม่เคยปรานี สงครามแห่งความโลภ ไม่ว่าสงครามครั้งนี้จะถูกเรียกว่าอะไรก็ตาม ความหมายของสงครามครั้งนี้ก็เหมือนกัน เพราะยังไงตอนนี้ทุ่งดอกไม้ก็ลุกเป็นไฟไปเสียแล้ว
แนวรบตะวันตก ภารกิจบุกทำลายปราการ PCT ปี 1939
เป็นการเดินทางที่ยาวนานหลังได้รับภารกิจบุกทำลายฐานทัพศัตรู ด้วยเทคโนโลยีที่ล้าหลังกว่าศัตรูทำให้เราเสียเปรียบอย่างรุนแรง ทว่าตอนนี้เราก็หนีไม่ได้แล้ว ไม่ทันรู้ตัวพวกเราก็ถูกโจมตีสายฟ้าแล๊บทั้งจากเครื่องบิน ปืนใหญ่ และ รถถัง พวกเราตกอยู่ในวงล้อมศัตรูจนหนีไม่ได้อีกต่อไป รถถังเบาขอเรา T50 เองก็ไม่สามารถตอบโต้ได้ ทั้งการโจมตีในรูปแบบถอยก็ตาม กระสุนขนาด 45mm. ไม่สามารถเจาะเกราะรถถังศัตรูได้เลยแม้แต่น้อย ไม่สิ แม้จะสร้างรอยถูกยิงให้รถถังศัตรูยังทำอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป จนตอนนี้รถถังของเราก็ถูกโจมตีอย่างหนักจนทุกคนหนีตายไม่ก็ตายตรงที่นั่งของตัวเองไปจนหมดเสียแล้ว
ความร้อนจากไฟที่ลุกไหม้ตรงห้องเครื่อง กลิ่นน้ำมันรั่วไหล กลิ่นเลือดและควันกระสุนจากปลอกกระสุนที่ถูกยิงไปเป็นจำนวนมาก ทุกอย่างกำลังปะปนกันในรถถังนี้ ฉันที่นั่งอยู่ในตำแหน่ง Commande ได้แต่นั่งดูดบุหรี่อยู่นิ่งๆ ทั้งที่รอบข้างของฉันเต็มไปด้วยศพของเพื่อนรวมรบ แปลกที่ฉันยังไม่ตายเพียงคนเดียว ทั้งที่กระสุนนัดสุดท้ายก่อนปลิดชีพ Driver คนสุดท้ายที่เหลือรอด กลับแตกเป็นเม็ดเล็กๆ แล้วกระเด็นไปรอบๆ รถโดยไม่โดนฉันเลยแม้แต่เม็ดเดียว แต่จากแรงกระแทกนั้นทำให้ตัวรถแทบจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ และเพราะทั้งหมดนี้ จึงไม่มีใครอยู่ต่อสู้ได้ รถของฉันเลยหยุดนิ่งอยู่แบบนี้ยังไงล่ะ
ทุกอย่างแลดูสิ้นหวัง เสียงของรถถังและระเบิดค่อยๆ ผ่านซากรถของฉันไปเรื่อยๆ ทั้งที่น่าจะเป็นเสียงของพวกเราที่กำลังบุกเข้าไป แต่กลับเป็นเสียงของศัตรูที่กำลังผ่านเข้าไปที่ค่ายแทน หากยังคงเป็นแบบนี้ อีกไม่นานค่ายต้องแตกแน่นอน ขนาดพวกเราที่รบแนวหน้ายังตายกันขนาดนี้ แนวหลังคงไม่ต้องหวังอะไรอีกแล้วล่ะ
วิทยุพังอย่างสิ้นเชิง ฝาปิดทุกจุดก็ติดจนออกไม่ได้ ไฟเองก็กำลังลุกไหม้ลามมาที่ห้องควบคุมซะแล้ว แบบนี้อีกไม่นานฉันเองก็คงต้องถูกเผาจนตายไปพร้อมกับทุกคนแล้วสินะ ทั้งที่น่าจะรีบตายให้เร็วกว่านี้แท้ๆ แต่ก็นะ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะตายตรงนี้เลย เพื่อเร่งการติดไฟฉันจึงดูดบุหรี่ไปเฮือกใหญ่ก่อนจะโยนไปที่กองน้ำมันที่รั่วไหล ไม่นานมันคงติดไฟจนเผารถทั้งคันในไม่ช้าแน่นอน ยังไงก็ ขอบคุณทุกๆ คนมากที่ช่วยเหลือกันมาจนตอนนี้ หลับให้สบายนะทุกคน ฉันกำลังจะไปหาแล้ว…
‘ตึงงง โครมมม!’
จังหวะที่กำลังจะโยนบุหรี่นั้นเอง ซากรถของฉันก็ถูกชนและพลิกตะแคงอย่างรุนแรงจนน้ำมันไหลออกไปจนหมด และเพราะแบบนั้นทำให้ฝาปิดหลังคาหลุดออกจากตัวรถด้วย และแรงปะทะที่เหลือก็ผลักให้ฉันกระเด็นออกมาจากตัวรถทันที อะไรกันนะเมื่อกี้ แรงชนนี่มันอะไรกัน…เพื่อความแน่ใจฉันจึงหยิบเอาปืนพกของตัวเองออกมาแล้วค่อยๆ คลานต่ำไปแอบดูว่ามีอะไรมาชนจนฉันรอดจากความตายมาได้
“ด…เดี๋ยว! เราพวกเดียวกัน!”
“อะไรกัน….BT-5เองเหรอคะ”
รถถังเบาคันเล็กปรากฏขึ้นพร้อมทหารหนุ่มตำแหน่ง Guner โผล่ขึ้นมาที่ฝ่าหลังคารถด้วยความตื่นตกใจที่ฉันเล็งปืนไปที่เขา
“ครับ! เราหนีตายมาแล้วไม่ทันดูทาง ขออภัยด้วยครับ!”
“…แย่เลยนะคะ แล้วนี่พอจะมีที่ให้ฉันติดรถไปด้วยได้มั้ยคะ”
“แน่นอนครับคุณ Commander รถของเราคอมแมนเองก็ตายไปแล้วเหมือนกัน ยังไงก็มาด้วยกันเถอะครับ ก่อนที่พวก PCT จะมาเจอเราแล้วไล่ยิงเราอีก”
“ค่ะ แต่ก็แย่เลยนะคะเรื่องคอมแมนของคุณ งั้นฉันจะเป็นให้ชั่วคราวระหว่างกลับฐานก็แล้วกัน”
ไม่คิดว่าฟ้าจะเลือกให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าต้องการแบบนั้นจริงๆล่ะก็ตกลง ฉันจะอยู่เพื่อสู้ต่อไป เพื่อแผ่นดินแม่ที่ถูกยึดครองไปโดย PCT ฉันจะต้องต่อสู้เพื่อเอามันกลับคืนมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเดินทางอีกไกลเพียงใดก็ตาม ฉันจะต้องเอาความสงบสุขกลับมาให้แก่โลกใบนี้ให้ได้…