Summary
อ่านนิยาย ฟรีที่ Novelza เรื่อง Ark The Legend
บทนำ
คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา
เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!
เรื่องย่อ
‘ที่นี่คือโถงหน้าของบริษัท?’
คิมฮยอนอูยกแว่นเก่าของตนขึ้น
อาคารนี้ห่างไปจากสถานีโซลใต้เพียงแค่เดินห้านาทีเท่านั้น
ด้านหน้าของอาคาร มีแสงตะวันสะท้อนออกเป็นคำว่า “โกลบอลเอ็กซอร์ทโคเรีย” ฉายอยู่บนหินอ่อนสีดำ
การรู้จักมันย่อมหมายถึงโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต มันกำลังข่มขวัญเขา
เขาไม่มีความกล้าที่จะเข้าไป แต่เขาก็ขาดความกล้าที่จะถอยกลับเสียยิ่งกว่า
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมเดินเข้าไปในอาคาร
“ผมมาสัมภาษณ์ครับ”
“เชิญที่ชั้นสามค่ะ”
ท่าทีของแผนกต้อนรับเผยให้เขาใช้ลิฟต์เพื่อขึ้นไป
“อา ขอบคุณครับ”
ขณะที่พยักหน้า เขาก็ก้าวถอยพร้อมโค้งให้และเดินจากไป เขาได้ยินเสียงหัวเราะไล่หลังมาด้วย ทำเอาเขาเริ่มหน้าแดง
เขาเข้าใจดีว่าทำไมเธอถึงหัวเราะ
หลังรับทราบข่าวการสัมภาษณ์อย่างกะทันหันเขาจึงไปยืมเสื้อสูทชุดหนึ่งที่ใหญ่เกินกว่าตัวของตนมาเพื่อใช้สัมภาษณ์
เขาเริ่มตระหนักได้ว่ามันทั้งดูโง่เง่าและน่าเกลียดขนาดไหนที่เขาสวมใส่ชุดสูทที่ใหญ่เกินขนาดตัวเช่นนี้
แน่นอนว่าย่อมมีผู้เข้ามาติดต่อมากหน้าหลายตา แต่ก็คงไม่มีใครมาเปรียบเทียบอย่างใกล้ชิดหรอก
เขามาถึงชั้นที่สาม เลานจ์บริเวณนี้ต่างเต็มไปด้วยผู้คนแทบเต็มความจุ
ผู้คนในชุดสูทที่หลากหลายต่างยืนอยู่
ที่น่าประหลาดใจคือบางคนกลับสวมกระทั่งเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ ใบหน้าพวกเขานั้นเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นเผยให้เห็นถึงประสบการณ์ทำงานของตน
ดวงตาเขาเริ่มมีเมฆหมอกมาบดบังขณะที่เขาคิดถึงการต้องมาร่วมสัมภาษณ์กับผู้คนเหล่านี้
ไม่ เขายังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าตนควรจะเข้าไปสัมภาษณ์ด้วยสภาพเช่นนี้หรือเปล่า
‘หรือเราไม่สมควรมาด้วยซ้ำ? กับสภาพเช่นนี้เราคงไม่มีอะไรดีไปกว่าคู่แข่งตรงหน้านี้เลยสักนิด’
ฮยอนอูผ่อนลมหายใจออกมาพร้อมสีหน้าปั้นยาก
* * *
ฮยอนอูก็แค่วัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่ง อย่างน้อยก็จนถึงเมื่อห้าปีก่อน
เขาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายธรรมดาคนหนึ่งที่ชอบของแบรนด์เนม มักจะซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่เสมอโดยอ้อนขอพ่อแม่ อีกทั้งยังเล่นเกมแทบทั้งวันในช่วงวันสุดสัปดาห์ จนกระทั่งถึงตอนนี้ บ่อยครั้งที่เขามักจะดูละครเหมือนที่พวกเด็กผู้ชายมักจะชอบดูในทีวี ทางหนึ่งเขาก็เริ่มใส่ใจ ขณะที่คิดว่าตนไม่อาจใช้ชีวิตดังเช่นเหล่าเด็กชายในทีวีเช่นนั้น จนกระทั่งกลับมาสู่ความเป็นจริง
ขณะที่อยู่โรงเรียนเขาได้รับสายด่วนโทรเข้ามา
เขาได้รับฟังว่าพ่อและแม่ของตนนั้นประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
เพียงแค่สายสั้น ๆ ชีวิตของฮยอนอูถึงกับแปรเปลี่ยน
พ่อของเขาเสียชีวิต ขณะที่แม่นั้นรอดชีวิตหลังผ่านการรักษามามากมาย ทว่าอาการยังคงมีภาวะแทรกซ้อน
ต้นเหตุของอุบัติเหตุก็เพราะพ่อของเขาหลับในขณะขับรถ ไหนจะต้องชดเชยให้กับผู้เสียหาย อีกทั้งยังมีประกันที่หมดอายุไม่ได้ต่อ ทำให้บริษัทประกันไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อเรื่องนี้
ทางตำรวจกับทนายของผู้เสียหายพอผ่านไปหลายครั้งก็เริ่มผ่อนปรน
ขณะที่ฮยอนอูพยายามเข้าใจสถานการณ์พร้อมกับการเจรจาที่อลหม่านอยู่นั้น บ้านของพวกเขาก็ถูกขายทอดตลาด ทั้งแผนการออมเงินและประกันต่าง ๆ ก็ยกเลิกจนหมด
เพื่อจัดการปัญหานี้ พวกเขาจึงเช่าอพาร์ทเม้นท์เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ทว่า แม่ของเขานั้นก็ยังต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
ประกันสุขภาพของพวกเขานั้นซื้อเอาไว้ตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อน
ไม่น้อยก็มาก ทุกครั้งแม่ของเขาจะไปโรงพยาบาลไม่เพราะไข้หวัด ก็ปวดท้อง หรือไม่ก็เรื่องหยุมหยิม นั่นทำให้แม่ของเขาต้องได้รับการรักษามากกว่าคนทั่วไป รวมทั้งแม่ของเขายังต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษอีก บริษัทประกันจึงเริ่มเปลี่ยนท่าที พวกเขามอบหนังสือเล่มเล็กที่เขียนภาษาอังกฤษและจีนมาให้เขา ขณะเดียวกันก็พร่ำเพ้อถึงการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขประกันที่ต้องถูกจำกัด เพราะเหตุนี้พวกเขาจึงต้องจ่ายเงินสามถึงสี่ล้านวอนในแทบทุกเดือน
นี่ค่อนข้างยากลำบาก แต่ก็เพราะแม่ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้จึงจำเป็นต้องจ่ายให้โรงพยาบาล
ลุงทั้งห้าคนจากทั้งฝั่งพ่อและแม่ของเขามอบซองกระดาษใส่ไว้ในกระเป๋าของฮยอนอู จากนั้นก็ไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็นอีกเลย
เขารู้สึกกลัว เงินที่มีอยู่ในกระเป๋านี้มีเพียงแค่สามล้านวอน มันไม่พอกระทั่งจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พอเดือนด้วยซ้ำ
เพื่อการดำรงชีวิตและค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล หนี้สินจึงเริ่มเพิ่มมากขึ้น ฮยอนอูตระหนักได้เป็นครั้งแรก เด็กชายตัวน้อยที่มักปรากฏตัวในทีวีนั้นยังไม่เติบใหญ่ แต่เขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไร้ซึ่งทางเลือกเว้นแต่การเติบใหญ่ขึ้น เป็นสถานการณ์สร้างผู้คน
เขารู้เป็นอย่างดีถึงความหมายของคำเหล่านี้ ชีวิตของฮยอนอูแปรเปลี่ยน ตื่นมาตอนเช้าก็ต้องไปส่งหนังสือพิมพ์กับนม จากนั้นก็ค่อยไปทำงานพาร์ทไทม์ตั้งแต่เย็นถึงรุ่งสางเพื่อหาเงิน ช่วงที่ผ่านมาน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียวที่คนคนหนึ่งจะชุบตัวไปพร้อมกับทำงานพาร์ทไทม์ที่ไซต์งานก่อสร้าง
ร่างกายของเขาปวดร้าวแต่ก็ยังคงต้องทำงานต่อไปไม่อาจพัก
ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนขยันขันแข็ง แต่เป็นเพราะเขาไร้ซึ่งทางเลือกที่จะทำ ทว่า เงินที่เขาได้รับก็แทบไม่พอสำหรับการใช้ดำเนินชีวิตและค่ารักษาที่โรงพยาบาล
‘ถึงจะมีญาติมาเยี่ยม เราก็ไม่อาจผ่อนคลายเพราะเรื่องรบกวนเหล่านี้ได้!’
ทุกครั้งที่พวกเขามา ที่เขาทำได้ก็มีเพียงแค่กำหมัดเอาไว้แน่น
เขาเคยได้ยินว่าพ่อเป็นคนดี แต่กลับไม่มีเพื่อนหรือครอบครัวสักคนที่คิดถึง อีกทั้งเขามักจะเอาเงินออมออกมาใช้อย่างไม่ลังเลหากคนใกล้ชิดเกิดปัญหาขึ้น ทว่า ผลตอบแทนจากสวรรค์กลับเป็นสิ่งที่ออกมาประดุจนิยาย
หลังพ่อของเขาเสียชีวิตลง ขณะที่แม่ของเขานั้นมีภาระทางค่ารักษาพยาบาล กลับไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเขา เลวร้ายยิ่งกว่าคือไม่เคยกระทั่งให้หยิบยืมเงิน นี่เป็นเพราะพวกเขาคิดว่าจะไม่ได้รับเงินคืน สายสัมพันธ์ของพวกเขาย่ำแย่ลงก็เพราะสถานการณ์ทางบ้านของเขา
ฮยอนอูตระหนักได้ดีถึงความเย็นชาอย่างไร้ซึ่งจุดจบในความเป็นจริงก่อนที่จะได้จบชั้นมัธยมปลาย
ไม่ว่าจะเป็นบุคคลพิเศษปานใด ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเหมือนกันหมด
‘เราต้องดูแลแม่ด้วยตัวของเราเอง!’
เขาเริ่มคิดที่จะหยุดเรียน แต่แม่ของเขาที่ป่วยนอนอยู่บนเตียงไม่อาจรับฟังเรื่องราวอะไร เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสู้กับมันต่อมาอีกปีหนึ่ง
ทว่า หลังเขาเรียนจบมัธยมปลาย สถานการณ์ของพวกเขากลับไม่ดีขึ้นเลย
หลังเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ฮยอนอูก็เริ่มมองหาทาง แม้ว่าเขาต้องทำงานเพิ่ม แต่สิ่งอื่นก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม เป็นดังเช่นเดิม เขาทำงานอยู่ทุกวี่วัน และแต่ละวันเขาก็ยิ่งไปโรงพยาบาลบ่อยขึ้น อีกทั้งหนี้สินก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นทุกเดือน
เขาเริ่มอิจฉาเพื่อนฝูงที่มักถือโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดไม่ก็สินค้าแฟชั่นใหม่ล่าสุด
อีกทั้งเขายังอิจฉาพวกที่มีเงินเหลือใช้ นี่เป็นหนึ่งสิ่งที่ฮยอนอูไม่อาจห้ามไม่ให้ตนเองอิจฉาได้ ความฝันตั้งแต่เด็กของฮยอนอูคือการเป็นพนักงานของบริษัทผลิตวิดีโอเกมสักแห่งหนึ่ง ก่อนที่อุบัติเหตุจะเกิด บ่อยครั้งเขามักจะอยู่ทั้งคืนเพื่อเล่นเกม หรือไม่แล้วเขาก็อยากประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์
* * *
แม้เขาจะละทิ้งความคิดที่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่เขาก็ยังไม่ละทิ้งความฝัน
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกเดือนเขาต้องจ่ายถึงสามแสนวอนเพื่อเข้าร่วมสถาบันเอกชน
วันหนึ่งอาจารย์ผู้สอนได้เข้ามาถามฮยอนอู
“ฮยอนอู เธอคิดอยากไปทำงานกับบริษัทเกมดูไหม?”
“บริษัทเกม?”
“อืม ซุนแบ บอกมาว่าเขารู้จักบริษัทเกมแห่งหนึ่งที่กำลังรับพนักงานใหม่ ฉันเลยโดนถามหานักเรียนดีเด่นสักคนที่จะแนะนำงาน ฉันก็เลยนึกถึงและมาแนะนำเธอ คิดว่าไง? สนใจทำงานให้บริษัทเกมไหม?”
“ไม่ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลับก็รับหรือครับ?”
“อายุมากกว่ายี่สิบปี ไม่จำกัดเพศและการศึกษา”
“ที่ไหนเหรอครับ?”
“เคยได้ยินชื่อโกลบอลเอ็กซอร์ทไหม?”
“ครับ?”
ฮยอนอูงงไปวูบ
หากเป็นบริษัทเกมขนาดเล็กก็คงไม่สนเรื่องการศึกษา
แต่ต้องไม่ใช่จากบริษัทยักษ์อย่างโกลบอลเอ็กซอร์ท! บริษัทนี้เหนือล้ำยิ่งกว่าทุกบริษัทในวงการเกม
พวกเขาเป็นอันดับหนึ่งของผู้เริ่มใช้แนวคิดเสมือนจริงกับเกม อีกทั้งพวกเขายังปล่อยเกมฟอร์มยักษ์ออกมาถึงสองเกมที่เพิ่งประกาศยอดรายได้ทั้งปีถึงหนึ่งล้านล้านวอน
“โกลบอลเอ็กซอร์ทขาดอะไรหรือครับ พวกเขาถึงกับมาจ้างคนอย่างผมได้?”
“ฉันก็ไม่รู้รายละเอียดมากนัก ตามที่ซุนแบว่า พนักงานที่ต้องการจ้างนั้นมีหลายรูปแบบมาก นี่ค่อนข้างหายากนะ การพิจารณาเอกสารการศึกษารวมถึงประสบการณ์การทำงานไม่สำคัญมากนัก อีกทั้งการทดสอบก็แตกต่างมาก รวมถึงค่าจ้างที่จ่ายให้พนักงานด้วย ทว่าก็มีคนสมัครไปมากมายเช่นกัน นี่คงไม่ง่ายนัก… ในเมื่อไม่รู้ว่างานเป็นยังไง ลองยื่นเอกสารไปก็ไม่เสียหายนะ”
* * *
อ่านต่อ กดเลือกตอนได้เลย
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novelza.com